Search

CIM-DPU จัดอบรม Functional Food “อาหารไทย” ไกลโรคไต - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

วันพุธ ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2567, 09.42 น.

ผศ.ดร.นพ.พัฒนา เต็งอำนวย คณบดีวิทยาลัยการแพทย์บูรณาการ CIM-DPU จัดอบรม “อาหารโรคไต” ร่วมกับเชฟหมึกแดง-หม่อมหลวงศิริเฉลิม สวัสดิวัตน์” แนะนำการดูแลตนเอง และ เมนูอาหารที่ทั้งรักษาและป้องกันสุขภาพ เป็นตัวอย่างให้นักศึกษาและผู้เข้าอบรม ผลักดันองค์ความรู้ด้าน “โภชนาการใหม่” ที่ถูกต้อง เพื่อตัดวงจรโรคไตพุ่งสูงขึ้นในอนาคตแก่สังคม 

โดยในปี 2565 จากข้อมูลของระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสาธารณสุข พบว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะ 3 จำนวน 420,212 ราย ระยะ 4 จำนวน 420,212 ราย และระยะที่ 5 ที่ต้องล้างไตมากถึง 62,386 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยสัดส่วนผู้ป่วยเป็น 'โรคไต' สูงลำดับที่ 3 ของประเทศภูมิภาคอาเซียน  


“สาเหตุการเกิดโรคไต คือ 'ความเชื่อ' ที่ไม่ถูกต้องของประชาชนทั่วไปรวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์และแพทย์ เช่น กินร้อนช้อนกลางล้างมือ งดหวานมันเค็ม หลีกเลี่ยงของหมักดอง ควรกินอาหารดีๆ มากๆ เพื่อบำรุงร่างกาย ฯลฯ ส่งผลให้คำว่า 'สุขภาพดีถ้วนหน้า' ไม่มีทางเกิดขึ้น”  ผศ.ดร.นพ.พัฒนา เต็งอำนวย คณบดีวิทยาลัยการแพทย์บูรณาการ (CIM) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ระบุ เส้นทาง 'แรก' ต้องเริ่มจากการลบ 'ความเชื่อที่ผิด' เพราะนำไปสู่การเข้าใจหลักโภชนาการที่ไม่ถูกต้อง 

* สำหรับผู้ที่สนใจ ณ ตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ จัดอบรม “Wellness Cooking” เรียนรู้ศาสตร์สุขภาพสมัยใหม่จากผู้เชี่ยวชาญตัวจริง ทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติ ในหัวข้อ โภชนาการเพื่อความงามและการชะลอวัย โภชนาการสำหรับนักกีฬา โภชนาการอาหารบำบัดโรคไต  โรค NCDs อาหารลดน้ำหนัก เทรนด์นวัตกรรมอาหารสุขภาพในอนาคต และเทคนิคปรุงอาหารสุขภาพอย่างไรให้อร่อย ได้ประโยชน์ครบถ้วน...

จนสะเทือนไต 'เพราะไม่รู้ความสัมพันธ์อาหาร'

แพทย์ผู้ที่สร้างปาฏิหาริย์ให้กับคนไข้มากมายและแทบไม่มีคนไข้ในมือสักรายที่ต้องล้างไต อธิบาย หลักโภชนาการที่ผิดเพี้ยนในปัจจุบันเป็นสาเหตุ 1 ของการเกิด 'โรคไต'  เช่น ควรกินอาหารปรุงสุก : ร่างกายสูญเสียวิตามิน หรือ ควรกินอาหารให้ 5 หมู่ : ทำให้ได้รับวิตามินเพียงพอแล้วไม่จำเป็นต้องกินวิตามินเสริมอีก 'ความรู้' เหล่านี้นำมาซึ่งการขาดวิตามินและเกลือแร่ อันเป็นสาเหตุหลักของ 'การเจ็บไข้ได้ป่วย' ด้วยโรคต่างๆ รวมไปถึง 'โรคไต'

“กฎของการชรา คือ กินน้อยแก่ช้า กินมากแก่เร็ว ผมเองก็เคยโง่ก่อนฉลาด”  คุณหมอพัฒนา ย้อนความหลังจากที่แต่ก่อนก็เป็นแบบอย่างคนทั่วไปที่ไม่รู้ว่า 'อาหาร' ในยุคปัจจุบันเปรียบเสมือนดั่ง 'ยาพิษ'

โดยอาหารทุกวันนี้ที่เรากินทำหน้าที่เพียงให้อิ่มท้องเท่านั้น ไม่ได้สารอาหารหรือวิตามินและแร่ธาตุ เนื่องจากทุกอย่างผ่าน 'กระบวนการอุตสาหกรรม-แปลงรูป-แช่แข็ง' ทำให้ปริมาณคุณค่าของสารอาหารนั้นลดลง

การเลี้ยงใน 'ระบบฟาร์ม' ทำให้เนื้อสัตว์และพืชผักไม่ได้เติบโตตามธรรมชาติ ส่งผลให้สารอาหารที่ทั้งสัตว์กินและพืชดูดซึมไม่ครบถ้วนตามมาเป็นลำดับ

นอกจากนี้ยังมี 'การปนเปื้อน' ในกรรมวิธีการดูแลให้เติบโตเพื่อการบริโภคต่างๆ อาทิ การใส่สารเคมีเร่งโตในสัตว์ การใส่ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงในพืช หรือการใส่สารกันบูด การเติมน้ำตาล ในอาหารสำเร็จรูป

“ไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนการกินอาหาร 5 หมู่ แล้วจะทำให้ได้วิตามินเพียงและแร่ธาตุพอ มีเพียงคำบอกเล่าถึงคนสมัยก่อนอายุยืน ซึ่งความเชื่อนี้ใช่และไม่ผิดถ้าในตอนนั้น เพราะยุคนั้นไม่มีระบบถนอมอาหารที่ดี  ซื้อวันนั้นทำกินวันนั้น สารพิษจากการแปรรูปจึงไม่มี อาหารจะเริ่มเน่านิดๆ แต่มีจุลินทรีย์ที่ดีต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

“หรืออย่างผลไม้กินก็กินตามฤดูกาล แต่ปัจจุบันมีกินได้ทั้งปีได้ด้วยการใช้ปุ๋ยเร่งโต วิตามินและแร่ธาตุมันก็ต้องเจื่อจาง อันนี้มีงานวิจัยพิสูจน์ และก็มีข้อมูลยืนยันชัดขึ้นเรื่อยๆ ถ้าร่างกายขาดวิตามินและแร่ธาตุเป็นสาเหตุทำให้เราป่วย เราจึงเห็นการต่อสู้ของการเกษตรที่ใช้วิธีการปลูกในดินและธรรมชาติที่มากขึ้น แต่ก็ต้องระวังเรื่องของการใส่ปุ๋ยตรงนี้ เพื่อป้องกันการทำงานหนักของไตรอบด้าน”

เมื่อไม่มีทางรู้ว่าร่างกายได้รับ 'วิตามิน' หรือ 'แร่ธาตุ' ครบถ้วนหรือไม่...จนกว่าจะป่วยและแสดงอาการ เพราะร่างกายขาดวิตามินและแร่ธาตุ ซึ่งมีข้อมูลชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน “คุณหมอพัฒนา” บอกว่า เราจึงควรจะต้องกินวิตามินและแร่ธาตุ ให้เพียงพอเพื่อเป็นการป้องกัน โดยมีหลักในการกินวิตามิน ได้แก่ 'วิตามินที่ละลายในไขมัน'  ควรกินพร้อมอาหาร ส่วน 'วิตามินละลายในน้ำ' กินตอนไหนก็ได้  และ 'วิตามินซี' ไม่ควรกินหลังอาหารเพื่อป้องกันกรดไหลย้อน

หรือ 'กินวิตามินพร้อมมื้ออาหาร' ที่เรียกว่า Functional Food เพื่อชาตินี้ 'ห่างไกลไตวาย'

“อาหาร Functional Food เปรียบเสมือนการกินวิตามินคลุกเคล้ากับอาหาร” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อธิบายเสริม โดยหลักการง่ายๆ ที่จะตัดสินอาหารอะไรคือ  Functional Food หรือไม่?  ประกอบด้วยหลักใหญ่ 2 ข้อ

รูปแบบวัตถุดิบ : ธัญพืชต่างๆ สมุนไพรและเครื่องเทศ รวมไปถึงพืชผักใบเขียวทั้งหมดที่เติบโตในดิน เช่น มัน หัวไชเท้า ยอดกระถิน ฯลฯ ส่วนในเนื้อสัตว์ก็จำพวกสัตว์ขนาดเล็ก อาทิ กุ้ง เคย กะปิแท้ ปลาเล็กปลาน้อยที่กินได้ทั้งตัว เพราะตัวสำคัญที่สุดของอาหารทำลายไต คือ 'กรด' เวลาเรากินอะไรที่เป็นกรด ไตต้องทำงานหนัก จากการไตมีหน้าที่ไม่เพียงขับของเสีย ยังควบคุมสมดุลน้ำและกรด โดยการตรวจสอบอาหาร 'กรด' หรือ 'ด่าง' สามารถวัดได้ด้วย 1.ตัวของอาหารเอง 2.วัดจากการทำปฏิกิริยากับร่างกาย 

รูปแบบการประกอบอาหาร : อาหารประเภทที่ใช้ความร้อนไม่สูง ได้แก่ ยำถั่วพูใส่ไข่ต้ม สลัดผัก ยำผักต่างๆ แกงเขียวหวาน ต้มยำ หรือ ข้าวคลุกกะปิแท้

“ให้นึกถึงอาหารแขก อาหารไทย อาหารมังสวิรัสิ อาหารจำพวกนี้จะมีธัญพืช พวกปลาตัวเล้กตัวน้อย พืชผักปลูกดิน และทีนี้อาหารที่ดีต่อไตจะไม่เป็นกรด ส่วนอาหารที่เป็นกรดในตัวเองก็พวก เนื้อสัตว์-นม-ชีส อันนี้เป็นกรด Uric acid เนื้อปลาก็มีกรดนี้ ร่างกายถ้าเราต้องการโปรตีน เราก็ควรเลือกโปรตีนจากพืช เห็ด ยอดผัก ดีต่อไต  ความเชื่อเรื่องอาหาร Phosphateสูงมีอันตรายต่อไต จริงๆ ผิด ธัญพืชมีไม่สูงเพราะอยู่ในรูปของNitrateดูดซึมได้ดี คนป่วยและไม่ป่วยโรคไตกินได้ จิ้มน้ำพริกกินได้ แต่ต้องไม่แปรรูป ไม่สังเคราะห์ ไม่ปั่นเพราะจะได้รับมากเกินไป ต่อมาดูในเรื่อง ปฏิกิริยาที่เข้าไปทำกับร่างกาย ที่เมื่อเรากินแล้วเข้าไปทำให้เป็นด่างแม้ตัวเองจะเป็นกรด ก็น้ำส้มสายชูแท้ที่มีกรด ACETIC ACID และมะนาวที่มีกรด Citric acid เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเป็นด่าง”

“จากนั้นก็ย้อนไปเรื่อง Physical Environment ช่วงต้น พยายามทำทันทีกินทันทีเพราะผักใบเขียวที่สีซีดลง เนื่องจากวิตามินเริ่มลด และไม่อุ่นร้อนอาหารด้วยไมโครเวฟเพราะมีรังสี ข้อสังเกตนอกจากอุ่นร้อนที่อุณหภูมิที่เหมาะสมอาหารยังอร่อยกว่าอุ่นไมโครเวฟ เลือกใช้น้ำมันเลือกใช้ Omega 3, 9 หลีกเลี่ยงพวกน้ำมันถั่วเหลือง และควรใช้ในปริมาณที่เหมาสม เพราะอาหารมีสารพิษและไม่ว่าจะทำยังไงมันก็มีสารพิษ ดังนั้นล้างผักด้วย Baking Soda ใช้เครื่องครัว Aluminum ใช้น้ำกรองที่ไม่มีสารพิษในการทำอาหาร ใช้เกลือสินเธาว์หรือเกลือหิมาลายันในการปรุง เพราะกินเค็มไม่ได้ทำให้ไตวาย แต่เกลือที่อันตรายคือ Salt Sodium Chloride คนป่วยเหยาะน้ำปลาที่เติมไอโอดีนได้นิดหน่อยเพิ่มอรรถรส ป้องกันขาดแร่ธาตุ”

“และหันมาดื่มน้ำแร่ธรรมชาติที่ไม่ใช่น้ำ R.O. เพราะมี  Potassium ที่ดีต่อไต รักษาสมดุลของน้ำและกรดกับด่างในร่างกาย น้ำช่วยล้างพิษ ช่วยไตทำงานหนักน้อยลง แต่ต้องเป็นน้ำที่ดี อย่าเชื่อว่าทำให้ไตวาย เราจะจำกัดน้ำเฉพาะไตวายระยะสุดท้าย ขาบวม น้ำท่วมปอดเท่านั้น   

“ทำแค่นี้ในเรื่องของอาหาร ทุกอย่างก็เป็นอาหาร Functional Food ทั้งสิ้น” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ระบุ

ทั้งนี้นอกจากนี้วิธีการ 'การเลือกอาหาร' ซึ่งทำให้คุณหมอพัฒนาเป็นแพทย์โรคไตที่คนไข้ในมือ 'ล้างไต' น้อยที่สุดในประเทศไทย แพทย์ผู้สร้างปาฏิหาริย์ให้กับคนไข้โรคไตหายป่วยมากที่สุดที่สำคัญ คือ 'การตรวจวินิจฉัยโรคไต' ด้วยการตรวจ 'Uric acid' และ 'Creatinine Ratio' ก่อนทำการรักษา

“90% ของคนไข้ที่พบไม่ได้ป่วยเป็นโรคไต อาการบวมของแขนและขามาจากโรคเส้นเลือดขอดและมาจากการฉีดวัคซีนเยอะ โดยอาการร่างกายบวมโรคไตกว่าจะรู้ตัวก็ระยะที่ 3-4 ในที่นี้จึงถือเป็นระยะแรก ขณะที่ระยะที่ 1-2 ไม่มีอาการเราจะไม่รู้ แต่สิ่งที่ต้องรู้คือต้องตรวจสุขภาพค่านี้และตรวจค่าไต BUN / Creatinine Ratio 

“กรณีถ้าพบค่าสูงไม่ต้องตกใจ อย่าพึ่งกินยาอะไร สาเหตุที่ค่าไตสูงขึ้นมีมาจากสาเหตุด้วยการขาดวิตามินดี ตากแดดวันละ 15 นาที รักษาหาย สาเหตุจากการออกกำลังกายหรือการกินโปรตีนมากเกินไปแบบคนแก่ ทั้งที่คนแก่อยู่บ้านเฉยๆ กินไม่ช่วยให้เสริมสร้างกล้ามเนื้อ หรือคนเล่นกล้าม ชงผงหรือปั่นโปรตีนกินทำให้ค่านี้สูง ยิ่งกินเยอะไตยิ่งทำงานหนัก รักษาแต่ต้นโดยการกิน Sodamint ราคา100 กว่าบาทเท่านั้น เหมือนคนเป็นโรคเบาหวานเป็นไตวาย ไม่ใช่ผลของโรคเบาหวานแต่เกิดจากที่กินยา”

“และการกินยาจำนวนมากที่กิน จากที่จะไม่ป่วยไตวายก็จะได้ล้างไตจริงๆ คราวนี้”   

คุมน้ำหนักไม่ให้ 'อ้วน' 

อย่างไรก็ตามผู้ป่วยโรคไตและผู้ที่ต้องการรักษาสุขภาพไต 'ใช่' จะรับประทานในปริมาณมากได้ ทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้ขีดเส้นใต้การคำนึงถึง 'ความอ้วน' ในการรับประทานอาหาร เพราะอย่างที่รู้ๆ กัน 'โรคอ้วน' เป็นสาเหตุของการเกิดโรคและสาเหตุให้ต้องกินยา ซึ่งนั้นคือการเพิ่มภาระการทำงานของ 'ไต' ให้หนักขึ้นโดยไม่จำเป็น 

“ไม่มีใครควรเป็นโรคไต ถ้าวันนี้ยังไม่เป็นโรคไต ยาเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเรื่องต่อมาเราควรระวัง คือ ความอ้วน ที่เราอ้วนจริงๆ เพราะแป้งมากเกินไป ไม่ใช่เพราะไขมัน เวลากินแป้งร่างกายดูดซึมเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล กระตุ้นการหลั่งInsulin เพื่อนำเอาน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานหรือเปลี่ยนเป็นไขมัน ซึ่งเมื่อไม่ได้ใช้พลังงาน จึงกลายเป็นการสะสมและอ้วน ไขมันเกาะตับและเบาหวาน”

“ให้เลือกแป้งที่มีกากใยอาหาร เช่น มัน เผือก หัวไชเท้าและธัญพืชมีกาก ผลไม้มีกากช่วยชะลอการดูดซึมของน้ำตาล  แต่มีน้ำตาล Fructose สูง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์พบว่า Fructoseในปริมาณมากๆ ทำให้เซลล์ในร่างกายเสื่อมสภาพและเป็นสาเหตุของการเกิดกรด  Uric Acid สูงในเลือด ดังนั้นห้ามปั่นน้ำผลไม้แยกกากเด็ดขาด ให้กินทั้งลูก และถ้าใครกินกากใยอาหารเยอะๆ ท้องจะอืดให้กิน Fiber จบ”  

อาจารย์หมอพัฒนาย้ำอีกครั้งถึง 'สาเหตุไตวาย' ที่พบบ่อยที่สุดคือ

1.ความดันโลหิตสูง อยากให้วัดความดันที่บ้าน กินยาลดความดันตอนเย็นเป็นวิธีการที่ถูกต้องที่สุด ถ้ามี 2ชนิดให้แยกกินเช้า-เย็น เพราะไม่กินยาไม่หาย 

2.สารพิษที่สำคัญ คือ 'ยา' ยกเว้นยาลดความดัน ยาโรคเบาหวานให้กินให้น้อยที่สุดและถ้ายิ่งกินยาลดไขมันด้วยให้ควรระวังเรื่องไตวาย

3.ทุกคนๆ ควรหมั่นตรวจสุขภาพทุกปี สำหรับคนป่วย 3-6 เดือนครั้งต่อครั้งในค่าต่างๆ และ ลด-ละ-เลิก เหล้า น้ำซุปกระดูก โดยเฉพาะเบียร์และน้ำอัดลมเนื่องจากมีกรด Uric Acid ที่สูง

“ไตวายเป็นเรื่องที่ป้องกันได้สบายๆ ชาตินี้จะไม่ถูกล้างไต ถ้าช่วยกันทำตามนี้” อาจารย์หมอพัฒนา กล่าว ทิ้งท้าย และต่อด้วยการชวนเชฟหมึกแดง “หม่อมหลวงศิริเฉลิม สวัสดิวัตน์” มาให้ความรู้เพื่อการปรุงอาหารที่ทั้งดีและอร่อย อันจะช่วยให้คนไทยสนใจเรื่องนี้มีสุขภาพดีกันถ้วนหน้าตามมา

Adblock test (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( CIM-DPU จัดอบรม Functional Food “อาหารไทย” ไกลโรคไต - หนังสือพิมพ์แนวหน้า )
https://ift.tt/fB0WeTm
อาหารสุขภาพ

Bagikan Berita Ini

0 Response to "CIM-DPU จัดอบรม Functional Food “อาหารไทย” ไกลโรคไต - หนังสือพิมพ์แนวหน้า"

Post a Comment

Powered by Blogger.