วลาดที่ 3 เจ้าผู้ปกครองแคว้นวัลลาเคียในยุโรปตะวันออกช่วงศตวรรษที่ 15 ซึ่งเป็นต้นแบบของตัวละครที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อของ “เคาท์แดร็กคูลา” ปีศาจแวมไพร์ผู้กระหายเลือด อาจมีรสนิยมในการกินอาหารที่ตรงกันข้ามกับภาพลักษณ์สุดแสนโหดเหี้ยมอย่างสิ้นเชิง
ทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยคาตาเนียของอิตาลี และนักประวัติศาสตร์จากหอจดหมายเหตุแห่งชาติของโรมาเนีย ได้ร่วมกันวิเคราะห์ร่องรอยทางเคมีที่ปรากฏในจดหมายหลายฉบับ ซึ่งวลาดที่ 3 ผู้มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์เป็นผู้เขียนขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อน ทำให้ทราบว่าเคาท์แดร็กคูลาตัวจริงนั้นอาจป่วยด้วยโรคทางพันธุกรรม จนต้องกินแต่อาหารมังสวิรัติแบบชาววีแกนก็เป็นได้
รายงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร ACS Analytical Chemistry ของสมาคมเคมีอเมริกัน ระบุว่าผลวิเคราะห์จดหมายสามฉบับ ซึ่งวลาดที่ 3 เขียนขึ้นระหว่างปี 1457-1475 เพื่อหารือกับโทมัส อัลเทมเบอร์เกอร์ ผู้ปกครองเมือง Sibiu ในเรื่องต่าง ๆ เช่นการเก็บภาษี มีร่องรอยโปรตีนในรูปแบบของสายกรดอะมิโนที่เรียกว่า “เพปไทด์” (peptide) ปะปนอยู่ถึง 500 ชนิด ในจำนวนนี้มีเพปไทด์ที่มาจากร่างกายของมนุษย์ราว 100 ชนิด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโปรตีนที่พบในเลือดและระบบทางเดินหายใจ
ทีมผู้วิจัยระบุว่าเพปไทด์บางตัวที่พบบนจดหมายของวลาดที่ 3 บ่งชี้ถึงโรคทางพันธุกรรมที่เรียกว่า ciliopathy ซึ่งโครงสร้างของเซลล์ส่วนที่ยื่นออกมาจากผิวภายนอกคล้ายเส้นขน (cilia) จะมีรูปทรงและการทำงานที่ผิดปกติ โรคนี้ส่งผลร้ายต่ออวัยวะหลายชิ้นในร่างกาย โดยจะทำให้เกิดการอักเสบไปทั่วร่าง จนผู้ป่วยเป็นโรคไตและมีภาวะไตวายได้ในที่สุด
นอกจากนี้ ciliopathy ยังส่งผลต่อการมองเห็น ทำให้ดวงตาไวต่อแสงมากผิดปกติจนสู้แสงได้น้อย ตาบวมอักเสบ บริเวณต่อมน้ำตามีเลือดไหลออกมาเจือปน จนทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะ “ฮีโมลาเครีย” (Hemolacria) หลั่งน้ำตาออกมาเป็นสายเลือดได้
อาการดังกล่าวตรงกับบันทึกในประวัติศาสตร์ที่ระบุว่า ในบางครั้งวลาดที่ 3 “หลั่งน้ำตาเป็นสายเลือดออกจากดวงตาสีเขียว” แม้เขาจะเป็นผู้ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความโหดเหี้ยม เนื่องจากได้จับข้าศึกชาวมุสลิมจากจักรวรรดิออตโตมัน และเหล่าอาชญากรที่เป็นนักโทษในแคว้นของตนเสียบหลาวไม้ จนล้มตายกันไปถึง 40,000 - 100,000 คน
บันทึกประวัติศาสตร์ยังระบุว่า “วลาดจอมเสียบ” (Vlad the impaler) ชอบรับประทานอาหารในบรรยากาศสยดสยอง ท่ามกลางศพของผู้คนมากมายที่ถูกเสียบบนหลาวไม้ แต่ทว่าอาหารจานโปรดของเขานั้นน่าจะเป็นอาหารมังสวิรัติที่มีแต่ผักผลไม้ เพราะนักวิทยาศาสตร์พบเพียงร่องรอยของโปรตีนจากอาหารประเภทนี้บนจดหมายของวลาดที่ 3
“อันที่จริงแล้ว บุคคลที่เป็นต้นแบบของแวมไพร์อาจเป็นชาววีแกน” ทีมผู้วิจัยกล่าวสรุป “สาเหตุที่ทำให้เคาท์แดร็กคูลาเลือกกินผัก อาจไม่ได้มาจากสำนึกทางจริยธรรม แต่น่าจะเป็นเพราะสุขภาพที่ย่ำแย่ ทำให้ร่างกายไม่อาจย่อยเนื้อสัตว์ได้ดีนัก หรือภาวะสงครามทำให้ขาดแคลนอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ก็เป็นได้”
https://ift.tt/NSasVnK
มังสวิรัติ
Bagikan Berita Ini
0 Response to "แดร็กคูลาผู้กระหายเลือดอาจเป็นชาววีแกน - บีบีซีไทย"
Post a Comment