Search

ร้านสะดวกซื้อในเยอรมันเก็บเงินสินค้าเพิ่มให้ครอบคลุมต้นทุนสิ่งแวดล้อม - Post Today

ตามข้อมูลจากสำนักงานสถิติของรัฐบาลกลาง ในปี 2022 ประเทศที่เศรษฐกิจใหญ่สุดของยุโรปอย่างเยอรมัน ประชาชนใช้เงินเพียง 11.1%  ของงบประมาณครัวเรือนสำหรับการซื้ออาหาร ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของสหภาพยุโรปโดยรวมซึ่งอยู่ที่ 15.9% ขณะที่สเปนอยู่ที่ 20.6% และอิตาลี 17.9% 

อย่างไรก็ตาม ราคาอาหารที่ถูกในเยอรมัน มักถูกผลิตในอุตสาหกรรมที่ต้องแลกมาด้วยราคาด้านสิ่งแวดล้อมที่สูงขึ้น โดยภาคเกษตรกรรมของเยอรมันมีส่วนรับผิดชอบต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกราว 55.5 ล้านเมตริกตันในปีที่แล้ว หรือประมาณ 7.4% ของการปล่อยก๊าซทั้งหมดของประเทศ

ขณะที่ทางด้าน Stefan Goergens สมาชิกคณะกรรมการของ Penny ระบุว่า “เราต้องเผชิญกับข้อความจำนวนมาก ที่แสดงถึงความไม่สบายใจว่าราคาอาหารของเราซึ่งมีราคาถูก ไม่สะท้อนต้นทุนที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมและสังคม”

ในระหว่างแคมเปญ "ต้นทุนที่แท้จริง (true cost)" ซึ่งจะดำเนินการไปจนถึงวันเสาร์ ลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายในร้านสะดวกซื้อ Penny ซึ่งมีอยู่ราว 2,150 สาขา จะถูกเรียกเก็บเงินเพิ่มสำหรับผลิตภัณฑ์ 9 รายการ ตั้งแต่โยเกิร์ตไปจนถึงไส้กรอกและ Schnitzel สำหรับมังสวิรัติ โดยราคาที่เรียกเก็บเพิ่มได้รวมต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมเช่น สิ่งที่เกิดขึ้นกับสภาพภูมิอากาศ สุขภาพของประชากร ความสมบูรณ์ของดินและน้ำ ขณะเดียวกันทางร้านก็จะแสดงราคาสินค้าตามปกติที่ยังไม่ได้รวมต้นทุนที่แท้จริงเช่นกัน

ตัวอย่างเช่น ราคาชีส 300 กรัม จากเดิมที่ราคา 2.49 ยูโร จะเพิ่มขึ้นเป็น 4.84 ยูโร

Adblock test (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( ร้านสะดวกซื้อในเยอรมันเก็บเงินสินค้าเพิ่มให้ครอบคลุมต้นทุนสิ่งแวดล้อม - Post Today )
https://ift.tt/r1ZMdV7
มังสวิรัติ

Bagikan Berita Ini

0 Response to "ร้านสะดวกซื้อในเยอรมันเก็บเงินสินค้าเพิ่มให้ครอบคลุมต้นทุนสิ่งแวดล้อม - Post Today"

Post a Comment

Powered by Blogger.